ภาครวมเศรษฐกิจทางสหรัฐ
1.Balance Sheet มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้ตลาดมีสภาพคล่องขึ้นบ้าง ( หนุนทองคำ )
2.USD LIBOR Interest Rates 0.07986% ---->0.07843% อัตราดอกเบี้ยการกู้ระหว่างธนาคารของตลาดลอนดอน ยิ่งปรับตัวขึ้น ยิ่งกดดันทอง ยิ่งปรับตัวลงก็หนุนทอง ( มีการปรับตัวลง หนุนทองคำ )
3.การคาดการณ์ของFOMC มีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย เพียง 0.25% ได้ปรับตัวลงที่ 94.9% ( หากยังยืนอยู่90%แบบนี้มีโอกาสทองจะขึ้นต่อ ) แต่ถ้าเฟดเซอร์ไพร์ ขึ้น 0.5% ทองจะลงฮ้วบๆ
4.Reverse repo rate 1,525--->1,568 คืออัตราที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารกลางของอินเดีย มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ทำให้ทองขึ้นได้ไม่มาก ( กดดันทอง )
5.Break Even 10 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 10 ปีอยู่ที่ 2.86 ( ตัวนนี้จะเป็นตัวที่เฟดจะตัดสินใจในการขึ้นดอกเบี้ย ยิ่งเยอะ ทองก็ยิ่งมีความกลัวว่าจะขึ้นได้ไม่มาก )
6.กองทุน SPDR วันที่ 10 ที่ผ่านมา กองทุนได้มีการเทขายทอง1.75 ตัน ( อันนี้น่าคิด ทำไมกองทุนถึงเริ่มเทขาย หรือเขาเห็นอะไรบางอย่างก็ได้ #กดดันทอง )
7.Forward Inflation 5 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5 ปี มีการย่อตัวเล็กน้อยที่ 2.35 ---> 2.3 และยังอยู่ในระดับที่สูง ( ตัวนนี้จะเป็นตัวที่เฟดจะตัดสินใจในการขึ้นดอกเบี้ย ยิ่งเยอะ ทองก็ยิ่งมีความกลัวว่าจะขึ้นได้ไม่มาก )
8. CBOE GOLD ETF VOLATILITY INDEX ดัชนีความกลัวของทองคำ พุ่งสูง ที่ 31.70 ---> 28.01 แสดงถึงความกังวลในตลาดทองคำได้ลดลง อาจส่งผลให้มองคำลงได้ไม่มากแล้วหากปรับตัวลงแล้วทองยังยืนเฉียด2000แบบนี้ ( ค่อนข้างกดดันทองคำ )
9.US30 ดาวน์โจส มีการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจาก ราคาน้ำมันได้ลดลงส่งผลให้ตลาดอุตสหกรรมได้มีแรงขยับขึ้น ( กดดันทองคำ )
10.Realyield 10y มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.916 ---> 0.881 ( ยิ่งปรับตัวขึ้นยิ่งกดดันทองคำ )
11. US10Y ปรับตัวขึ้นมาที่ 1.924 ---> 1.979 ( กดดันทอง )
12.TIP หรือตราสารหนี้ ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ( หนุนทองคำ )
13. DXY หรือดัชนีดอลลาห์ มีการฟื้นตัวขึ้นหลังจากเจรจารอบที่ 4 ยูเครนกับรัสเซีย ไม่สำเร็จ ( หากอยู่ในสภาวะปกติ ยิ่งขึ้นยิ่งกดดันทอง แต่กับสงครามกลับกัน ยิ่งลงยิ่งกดดันทอง )
14.แร่โลหะ มีการฟื้นตัวขึ้นหลังจากเจรจารอบที่ 4 ยูเครนกับรัสเซีย ไม่สำเร็จ( หนุนทองคำ )
15. GoldSilver Ratio อัตราส่วนทองคำและเงิน ยังอยู่ในแดนบวกหรือขึ้นไปและพักตัว ( หนุนทองคำ)
16.U.S. 10 Year Tips คือจำนวณที่เพิ่มขึ้น/ลดลง ( ข้อ 10 ) ณ ช่วงเวลานี้อยู่ในแดนบวก +0.147 ( กดดันทองคำ )
17. 2-10 Spread 0.248 ---> 0.275 มีการฟื้นตัวขึ้นส่งผลทำให้ทองคำอ่ะมีการปรับตัวร่วงลงต่อเนื่อง ( กดดันทอง )
18. Put/Call OI Ratio 1.03---> 1.00 เริ่มมีการย่อตัวลงบ้างเล็กน้อยแต่อยู่ในระดับ 1.0% อาจจะยังคงมีความผันผวนทองคำ
19.Fear & Greed Index ค่าความกลัวของตลาดหุ้น 13---> 15 ยังอยู่ในแดนกลัวแบบขี้หดตดหาย /โคตระน่ากลัว ( หนุนทองคำ )
แนวรับ 2051.61
แนวรับ 2034.18
แนวรับ 2020.68
แนวรับ 2010.50
แนวต้าน 1958.52
แนวต้าน 1945.74
แนวต้าน 1933.04
แนวต้าน 1914.71
สงครามยังไม่จบอย่าพึ่งนับตังในพอร์ต
การลงทุนมีความเสี่ยงโปรใช้จักรยานในการวิเคราะห์
1.Balance Sheet มีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้ตลาดมีสภาพคล่องขึ้นบ้าง ( หนุนทองคำ )
2.USD LIBOR Interest Rates 0.07986% ---->0.07843% อัตราดอกเบี้ยการกู้ระหว่างธนาคารของตลาดลอนดอน ยิ่งปรับตัวขึ้น ยิ่งกดดันทอง ยิ่งปรับตัวลงก็หนุนทอง ( มีการปรับตัวลง หนุนทองคำ )
3.การคาดการณ์ของFOMC มีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย เพียง 0.25% ได้ปรับตัวลงที่ 94.9% ( หากยังยืนอยู่90%แบบนี้มีโอกาสทองจะขึ้นต่อ ) แต่ถ้าเฟดเซอร์ไพร์ ขึ้น 0.5% ทองจะลงฮ้วบๆ
4.Reverse repo rate 1,525--->1,568 คืออัตราที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยเงินกู้ให้กับธนาคารกลางของอินเดีย มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ทำให้ทองขึ้นได้ไม่มาก ( กดดันทอง )
5.Break Even 10 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 10 ปีอยู่ที่ 2.86 ( ตัวนนี้จะเป็นตัวที่เฟดจะตัดสินใจในการขึ้นดอกเบี้ย ยิ่งเยอะ ทองก็ยิ่งมีความกลัวว่าจะขึ้นได้ไม่มาก )
6.กองทุน SPDR วันที่ 10 ที่ผ่านมา กองทุนได้มีการเทขายทอง1.75 ตัน ( อันนี้น่าคิด ทำไมกองทุนถึงเริ่มเทขาย หรือเขาเห็นอะไรบางอย่างก็ได้ #กดดันทอง )
7.Forward Inflation 5 Year การคาดการณ์เงินเฟ้อ 5 ปี มีการย่อตัวเล็กน้อยที่ 2.35 ---> 2.3 และยังอยู่ในระดับที่สูง ( ตัวนนี้จะเป็นตัวที่เฟดจะตัดสินใจในการขึ้นดอกเบี้ย ยิ่งเยอะ ทองก็ยิ่งมีความกลัวว่าจะขึ้นได้ไม่มาก )
8. CBOE GOLD ETF VOLATILITY INDEX ดัชนีความกลัวของทองคำ พุ่งสูง ที่ 31.70 ---> 28.01 แสดงถึงความกังวลในตลาดทองคำได้ลดลง อาจส่งผลให้มองคำลงได้ไม่มากแล้วหากปรับตัวลงแล้วทองยังยืนเฉียด2000แบบนี้ ( ค่อนข้างกดดันทองคำ )
9.US30 ดาวน์โจส มีการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจาก ราคาน้ำมันได้ลดลงส่งผลให้ตลาดอุตสหกรรมได้มีแรงขยับขึ้น ( กดดันทองคำ )
10.Realyield 10y มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.916 ---> 0.881 ( ยิ่งปรับตัวขึ้นยิ่งกดดันทองคำ )
11. US10Y ปรับตัวขึ้นมาที่ 1.924 ---> 1.979 ( กดดันทอง )
12.TIP หรือตราสารหนี้ ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ( หนุนทองคำ )
13. DXY หรือดัชนีดอลลาห์ มีการฟื้นตัวขึ้นหลังจากเจรจารอบที่ 4 ยูเครนกับรัสเซีย ไม่สำเร็จ ( หากอยู่ในสภาวะปกติ ยิ่งขึ้นยิ่งกดดันทอง แต่กับสงครามกลับกัน ยิ่งลงยิ่งกดดันทอง )
14.แร่โลหะ มีการฟื้นตัวขึ้นหลังจากเจรจารอบที่ 4 ยูเครนกับรัสเซีย ไม่สำเร็จ( หนุนทองคำ )
15. GoldSilver Ratio อัตราส่วนทองคำและเงิน ยังอยู่ในแดนบวกหรือขึ้นไปและพักตัว ( หนุนทองคำ)
16.U.S. 10 Year Tips คือจำนวณที่เพิ่มขึ้น/ลดลง ( ข้อ 10 ) ณ ช่วงเวลานี้อยู่ในแดนบวก +0.147 ( กดดันทองคำ )
17. 2-10 Spread 0.248 ---> 0.275 มีการฟื้นตัวขึ้นส่งผลทำให้ทองคำอ่ะมีการปรับตัวร่วงลงต่อเนื่อง ( กดดันทอง )
18. Put/Call OI Ratio 1.03---> 1.00 เริ่มมีการย่อตัวลงบ้างเล็กน้อยแต่อยู่ในระดับ 1.0% อาจจะยังคงมีความผันผวนทองคำ
19.Fear & Greed Index ค่าความกลัวของตลาดหุ้น 13---> 15 ยังอยู่ในแดนกลัวแบบขี้หดตดหาย /โคตระน่ากลัว ( หนุนทองคำ )
แนวรับ 2051.61
แนวรับ 2034.18
แนวรับ 2020.68
แนวรับ 2010.50
แนวต้าน 1958.52
แนวต้าน 1945.74
แนวต้าน 1933.04
แนวต้าน 1914.71
สงครามยังไม่จบอย่าพึ่งนับตังในพอร์ต
การลงทุนมีความเสี่ยงโปรใช้จักรยานในการวิเคราะห์